“สิว” เป็นปัญหากวนใจที่ใครหลายๆคนอาจจะเข้าใจว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เป็นแล้วก็หายได้ ขึ้นประเดี๋ยวเดียวแล้วก็จะหายไปตามช่วงอายุ แต่หารู้ไม่ว่าทางการแพทย์แผนจีนนั้นถือว่า “สิว” เป็นสิ่งบ่งชี้ของภาวะสุขภาพของเราได้เลยทีเดียว
สิวนั้นมีหลายแบบ ทั้งสิวผด สิวอักเสบ สิวอุดตัน สารพัดจะตั้งชื่อตามลักษณะทางกายภาพและรูปแบบของการเกิด ในทางการแพทย์แผนจีนก็เช่นกัน นอกจากจะมีการเรียกชื่อสิวที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละยุคสมัยแล้ว ยังเชื่อว่าสิวแต่ละแบบนั้นบ่งบอกถึงภาวะสุขภาพที่แตกต่างกันออกไปด้วย โดยที่พบบ่อยได้แก่
สิวที่ไม่มีหัว มีลักษณะเป็นผด ไม่มีสี ลูบแล้วรู้สึกได้ว่าผิวไม่เรียบเนียน แพทย์แผนจีนเชื่อว่าสิวหรือผดลักษณะนี้เกิดจาก “ลมที่เป็นพิษ” มาสัมผัสกับผิวหนังทำให้เกิดผดหรือสิวดังกล่าว (สมัยก่อนยังไม่รู้จักคำว่า “เชื้อโรค” จึงมักจะกล่าวว่าลมที่พัดมาสัมผัสผิวเป็นตัวการทำให้เกิดภาวะผิดปกติต่างๆทางผิวหนังและร่างกาย) แพทย์แผนจีนมักจะใช้การฝังเข็ม หรือยาจีน ช่วยปรับสมดุลภายในร่างกาย เน้นการเพิ่มภูมิคุ้มกันและป้องกันลมพิษจากภายนอกเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งจะช่วยรักษาอาการสิว ผดไม่มีหัวนี้ได้
สิวที่มีหัวหนองสีเหลือง รอบๆสิวเป็นสีแดงระเรื่อ มักมีอาการเจ็บปวดบริเวณผิวหนังที่เป็น ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า แผ่นหลัง หรือหน้าอก แพทย์แผนจีนเชื่อว่าสิวลักษณะนี้เกิดจากลมพิษภายนอกเข้าสู่ร่างกาย ปล่อยไว้เป็นเวลานานทำให้ร่างกายเสียสมดุลเกิดเป็นความร้อน เมื่อร่างกายระบายความร้อนออกไปได้ไม่ดีจะทำให้เกิดภาวะ “ร้อนใน” ทำให้มีอาการปากแห้ง คอขม มีแผลในปาก ถ่ายไม่ออก ลิ้นแดง ฝ้าที่ลิ้นหนามีสีเหลือง มักจะกระสับกระส่าย ใจร้อน ผู้หญิงมักจะพบว่ามีตกขาวสีเหลืองอ่อนเป็นจำนวนมาก เป็นต้น ความร้อนในร่างกายเหล่านี้จะเผาไหม้สารน้ำภายในร่างกายให้มีลักษณะข้น หนืดมากขึ้น ศาสตร์การแพทย์แผนจีนเรียกสารน้ำเหลวข้น และหนืดเหล่านี้ว่า “เสมหะ” สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกาย มีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไป เช่น ขี้ตา เสมหะในลำคอ ขี้มูก และหากอุดกั้นอยู่ตามผิวหนังเราจะเรียกว่า “สิว” ถ้ามีขนาดใหญ่ มีภาวะภูมิคุ้มกันของร่างกายพร่องร่วมด้วยจนทำให้เกิดความเจ็บปวดรุนแรงเราจะเรียกว่า “ฝี” นั่นเอง
วิธีการรักษาสิวที่มีหัวหนองด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีนนั้น โดยทั่วไปมักใช้การฝังเข็ม ยาจีน และครอบแก้วหรือกวาซา ระบายความร้อนที่อุดกั้นสะสมอยู่ในร่างกาย ควบคู่กับการขับเสมหะ และกระตุ้นระบบย่อยอาหาร(ม้าม) ซึ่งแพทย์แผนจีนเชื่อว่าเป็นระบบการทำงานของร่างกายที่สำคัญที่จะช่วยลดการเกิดเสมหะและความร้อนสะสมเหล่านี้ได้
นอกจากนี้การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม ยังช่วยให้เสมหะและความร้อนสะสมเหล่านี้ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย อาหารที่แนะนำให้ผู้ที่มีสิวหัวหนองหรือมีฝีบ่อยๆรับประทาน ได้แก่ อาหารที่มีรสจืด ฤทธิ์เย็นหรือฤทธิ์กลาง ขับเสมหะ ได้แก่ ถั่วเขียว ผักบุ้ง ผักคื่นไช่ ฟัก ฟักทอง แตงโม ลูกเดือย เม็ดบัว รากบัว ดอกเก๊กฮวย เป็นต้น งดรับประทานอาหารหรือผลไม้รสหวาน ดื่มน้ำสะอาดมากๆ ...ลูกเดือยช่วยขับเสมหะได้ดีมาก วิธีการรับประทานให้นำลูกเดือยแช่น้ำ 4-6 ชั่วโมงจนนิ่ม นำไปหุงผสมข้าวหอมมะลิ หรือตุ๋นเป็นโจ๊กรับประทานเป็นประจำ หรืออาจนำมาใส่ในซุปไก่ใส่ฟักในขั้นตอนสุดท้าย ต้มจนนิ่มรับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ เสริฟคู่กับน้ำเก๊กฮวย นอกจากอร่อยแล้วยังช่วยลดสิวอักเสบหัวหนองได้ดีอีกด้วยค่ะ
พจ.อรภา ศิลมัฐ