การฝังเข็มและครอบแก้ว

 

การฝังเข็ม

การฝังเข็มเป็นทางเลือกในการรักษาโรคและปรับสมดุลร่างกายที่มีรากฐานมาจากประเพณีและวัฒนธรรมของประเทศจีน เป็นวิธีการแพทย์ที่มีประวัติความเป็นที่นิยมมากกว่า 3,000 ปี การใช้เข็มที่บางและเล็กเพื่อกระตุ้นจุดต่างๆ บนร่างกาย เพื่อปรับสมดุลและรักษาโรคได้ ไม่เฉพาะในด้านการรักษาอาการเจ็บป่วย แต่ยังเป็นวิธีการป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย

**พื้นฐานทฤษฎีและการประยุกต์ใช้ของการฝังเข็ม**

การฝังเข็มในแผนจีนมีพื้นฐานทฤษฎีของการกำเนิดและสัมพันธ์ของสรรพสิ่งและชีวิต เช่น ทฤษฎีอิน-หยาง และปัญจธาตุ รวมถึงทฤษฎีกายวิภาคและสรีรวิทยา เช่น ทฤษฎีอวัยวะภายใน ชี่ เลือด ของเหล็วในร่างกาย ระบบเส้นลมปราณ และจุดฝังเข็ม

โดยประสิทธิภาพของการฝังเข็มไม่เพียงแค่อยู่ที่การแทงเข็มไปตามจุดต่างๆ บนร่างกาย เพราะมันช่วยป้องกันโรคและควบคุมสมดุลของร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการปวด ควบคุมอาการอักเสบ และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน การฝังเข็มไม่ใช่แค่วิธีการรักษาเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นวิธีการป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพ

**การให้บริการฝังเข็มในปัจจุบัน**

ในปัจจุบันการให้บริการฝังเข็มได้รับการพัฒนาและปรับปรุงเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการรักษา แพทย์จะทำการวิเคราะห์โรคและปักเข็มลงในจุดที่มีผลในการรักษา โดยใช้เข็มที่เล็กที่สุดเท่าที่จำเป็น ผู้ป่วยควรมีความตั้งใจที่จะรับการรักษา และไม่ควรกังวลหรือกลัวมากเกินไป เช่น กังวลเรื่องการติดเชื้อหรือความเจ็บปวด

นอกจากนี้ เพื่อความปลอดภัย การให้บริการฝังเข็มในประเทศไทยมักใช้เข็มครั้งเดียวแล้วทำลาย ไม่นำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคหรือการแพร่กระจายของโรคในกรณีที่มีการใช้เข็มให้กับผู้ป่วยคนอื่นๆ หรือเข็มถูกใช้ในบริบทที่ไม่สะอาด

การฝังเข็มไม่เพียงแค่เป็นกระบวนการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ แต่ยังเป็นวิธีการที่เชื่อถือได้ในการบำบัดฟื้นฟูสุขภาพของมนุษยชาติในปัจจุบัน ด้วยความรู้และประสบการณ์ที่มีอยู่ เราสามารถสร้างสุขภาพที่ดีและป้องกันโรคได้ด้วยการฝังเข็มอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง

**การเตรียมตัวและขั้นตอนการฝังเข็ม**

ก่อนที่จะตัดสินใจที่จะรับการรักษาด้วยการฝังเข็ม ควรปรึกษาแพทย์เสมอ โดยเฉพาะถ้าผู้ป่วยมีโรคเรื้อรังหรือโรครุนแรง เนื่องจากการฝังเข็มเป็นวิธีการแพทย์ทางเลือก ไม่สามารถให้คำปรึกษาได้ว่าจะเหมาะกับทุกคน

**ขั้นตอนการฝังเข็มและแนวทาง**

1. **การเตรียมตัว:** แพทย์ผู้ทำการรักษาจะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการรักษา และอาจจะต้องถอดหรือเปลี่ยนชุดเสื้อของคุณให้เหมาะกับการฝังเข็ม หลังจากนั้นผู้ป่วยจะนั่งหรือนอนในท่าที่แพทย์เห็นว่าเหมาะสม

2. **การฝังเข็ม:** แพทย์จะใช้เข็มที่บางและเล็กเจาะผ่านผิวหนังไปยังจุดฝังเข็ม บริเวณที่จะทำการฝังอาจเป็นส่วนที่มีกล้ามเนื้อหรือผิวหนัง จำนวนเข็มและความยาวของเข็มจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่จะทำการรักษา

3. **การกระตุ้นเข็ม:** แพทย์อาจใช้เทคนิคการหมุนหรือปั่นเข็ม หรือการใช้ความร้อน หรือกระตุ้นเข็มด้วยกระแสไฟฟ้า (Electroacupuncture) ในขณะนี้ผู้ป่วยควรอยู่ในสภาพผ่อนคลายสุดๆ ไม่ควรกระตุ้นหรือเกร็งตัว เพื่อป้องกันการเจ็บปวดเพิ่มเติม

4. **ระยะเวลาการฝังเข็ม:** แพทย์จะปล่อยเข็มฝังไว้ประมาณ 15-25 นาที ในระหว่างเวลานี้คุณจะไม่รู้สึกเจ็บหรือปวด หากมีอาการไม่พึงประสงค์หรือเจ็บมากควรแจ้งแพทย์ทันที

5. **หลังการฝังเข็ม:** คุณอาจรู้สึกผ่อนคลายหรือกระชุ่มกระชวย บางคนอาจไม่รู้สึกดีขึ้นหรือไม่ตอบสนองต่อการรักษา หากในช่วง 2-3 สัปดาห์คุณไม่พบการดีขึ้น ควรพบแพทย์เพื่อปรับการรักษาให้เหมาะสม

**การฝังเข็มสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้ในกรณีต่อไปนี้:**

- ปวดเรื้อรัง เช่น ปวดหัว, ไมเกรน, ปวดฟัน, ปวดคอ, ปวดไหล่, ปวดหลัง, ปวดกล้ามเนื้อ, ปวดข้อ
- โรคข้อเข่าเสื่อม
- อาการปวดจากการผ่าตัด
- โรคมะเร็ง
- อาการปวดประจำเดือนแบบรุนแรง
- ปัญหาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการคลอดลูก
- การฟื้นฟูสมรรถภาพหลังจากโรคหลอดเลือดสมอง
- โรคกดทับของเส้นประสาทบริเวณข้อมือและหลัง
- อาการหอบหืดและการติดเชื้อทางเดินหายใจ

การฝังเข็มเป็นวิธีการทางการแพทย์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่พบการดีขึ้นหรือมีอาการที่ไม่พึงประสงค์หลังจากการรักษา เช่นเดียวกับการรักษาด้วยวิธีอื่น ควรพบแพทย์เพื่อหาทางแก้ไขปัญหา

 


* เป็นเข็มที่แพทย์จีนนิยมใช้ เรียกว่า เข็มปลายสน ส่วนปลายของเข็มมีลักษณะเหมือนใบสน มีความคมพอประมาณ
 

ฝังเข็ม: รักษาอย่างไร?

การฝังเข็มไม่เพียงแค่การตัวแพทย์จีนปักเข็มไปตามร่างกาย มันเกี่ยวข้องกับเทคนิคและความรู้ทางการแพทย์อีกมากมาย เพื่อให้การรักษามีผลลัพธ์ที่ดี แพทย์จีนต้องมีความรู้ที่ดีเกี่ยวกับเข็มและอุปกรณ์การฝังเข็ม การเลือกใช้ประเภทของเข็ม วิธีการใช้ ข้อควรระวัง และเทคนิคต่างๆ ตั้งแต่การจับเข็ม จนถึงการถอนเข็ม รวมถึงการเลือกใช้อุปกรณ์เสริมที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

แพทย์แผนจีนใช้เข็มประเภทไหนในการฝังเข็มในผู้ป่วย? ไม่ใช่เข็มฉีดยา เข็มที่แพทย์แผนจีนใช้มีลักษณะเป็นเข็มบางที่ปลายแหลม ทำจากโลหะสแตนเลส มีความทนทาน ยืดหยุ่น ไม่หักหรือเปราะแตกง่าย และไม่เป็นสนิม เข็มที่แพทย์จีนใช้จะมีความแหลม และปลายเข็มแหลมนำผ่านผิวหนังเข้าไป การแทงผ่านผิวหนังนี้แทบจะไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ ผู้ป่วยอาจรู้สึกปวด, ชา, พองแน่น หรือรู้สึกหน่วงบริเวณรอบจุดที่ฝังเข็ม หรืออาจรู้สึกแล่นกระจายขึ้นหรือลงไปตามแนวเส้นลมปราณ ในขณะเดียวกันแพทย์ฝังเข็มจะรู้สึกว่าเข็มในมือตึงแน่นเหมือนถูกหน่วงเอาไว้ การได้รับความรู้สึกที่เรียกว่า "การได้ชี่ หรือ เต๋อชี่" (Arrival of Qi) มีความสำคัญมากในการรักษาโรค ตั้งแต่การแทงเข็มลงไปที่จุด จนถึงการถอนเข็ม

แต่มีบางกรณีที่ไม่ควรทำการฝังเข็ม เช่น ในผู้ที่ตั้งครรภ์ในช่วงสามเดือนแรก หรือผู้ที่มีโรคเลือดหรือมีความผิดปกติของระบบแข็งตัวของเลือด หรือโรคเร่งด่วนที่ต้องการการรักษาโดยการผ่าตัดอย่างแน่นอน และในกรณีของผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งที่ยังไม่ได้ปรึกษาแพทย์ เข็มไม่ควรถูกฝังไปในกรณีเหล่านี้

**ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฝังเข็มแบบจีน**

การฝังเข็มจีนเป็นทางเลือกการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการต่าง ๆ แต่ย่อมมีผลข้างเคียงบางอย่างที่ผู้ที่รับการรักษาควรรู้ถึง เพื่อให้การรักษาเป็นไปได้ด้วยความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่สูงที่สุด ดังนั้น นี่คือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้:

1. **การเป็นลม:**แพทย์จีนได้ระบุว่า การเป็นลมอาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ความตื่นเต้น กลัวเข็ม ร่างกายที่อ่อนเพลีย หรือการไม่รับประทานอาหารแล้วท้องว่าง ในกรณีนี้ ควรให้ข้อมูลถึงสภาพจิตใจและร่างกายของคุณให้แก่แพทย์ฝังเข็มเพื่อป้องกันการเป็นลม

2. **การติดเข็มหรือเข็มงอหัก:** ควรพยายามอยู่นิ่งเพื่อป้องกันการขยับตัวเมื่อถูกปักเข็ม เนื่องจากการขยับอาจทำให้เข็มติดหรืองอได้ และนอกจากนี้ การปักเข็มควรทำโดยมืออาชีพที่ชำนาญ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหานี้

3. **การไหลเลือด:** การปักเข็มอาจทำให้เข็มถูกปักในเส้นเลือดที่อยู่ใต้ผิวหนังหรือในกล้ามเนื้อ ซึ่งอาจ导致การไหลเลือด ในกรณีนี้ เมื่อถอนเข็มควรกดทันทีเพื่อหยุดการไหลเลือดไม่ให้ออก

4. **การขังลมในโพรงเยื่อหุ้มปอด:** ผลข้างเคียงนี้ค่อนข้างรุนแรง แพทย์จะต้องระมัดระวังในการปักเข็มและไม่ควรปักเข็มในบริเวณที่อาจทะลุเข้าปอดได้ นอกจากนี้ ผู้ป่วยควรอยู่นิ่งเพื่อป้องกันการขังลมในโพรงเยื่อหุ้มปอด

การรักษาด้วยฝังเข็มจีนเป็นกระบวนการทางการแพทย์ที่ต้องมีความระมัดระวังและคำนึงถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้ผู้รับการรักษาได้รับประโยชน์มากที่สุดและปลอดภัยในขณะเดียวกัน การฝังเข็มอาจเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคบางชนิด แต่ควรปฏิบัติตามคำแนะนำและคำปรึกษาจากแพทย์เสมอ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการรักษาโรค

การครอบแก้ว

การครอบแก้วหรือ Cupping Therapy เป็นทางเลือกทางการแพทย์จีนที่ใช้วัสดุเช่น แก้ว ถ้วย ซิลิโคน หรือกระบอกไม้ไผ่ เพื่อไล่อากาศออกโดยใช้ความร้อน แล้วนำมาวางครอบบนร่างกาย โดยเน้นบริเวณเส้นลมปราณตามตำราแพทย์จีน ผ่านกระบวนการทำให้กล้ามเนื้อดูกล้ามเนื้อจนมีเลือดมาคั่งและผิวหนังมีสีแดงหรือม่วงคล้ำขึ้น นั่นเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ลดการคั่งของเสีย ปรับสมดุลร่างกาย และลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อในจุดที่ครอบแก้วได้

**รูปแบบการครอบแก้ว**

มีหลายวิธีที่แพทย์จีนใช้ในการรักษา ซึ่งอธิบายได้ดังนี้:

1. **วิธีหลิวกว้าน (Leaving Cupping):** คือ การครอบแก้วทิ้งไว้บนผิวหนังเป็นเวลา 5-15 นาที แล้วดึงออก วิธีนี้เหมาะสำหรับรักษาโรคปวดต่างๆ เช่น ปวดหลัง ปวดเอว ปวดท้อง เป็นต้น

2. **วิธีส่านกว้าน (Flashed Cupping):** คือ การครอบแก้ว ดึงออก แล้วทำซ้ำ โดยไม่ทิ้งไว้ นั่นเหมาะสำหรับรักษาบริเวณที่กล้ามเนื้อหย่อนคล้อย หรือบริเวณที่มีอาการชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง

3. **วิธีโจว่กว้าน (Moving Cupping):** คือ การเดินแก้ว โดยใช้น้ำมันหรือยาหม่องชโลม เพื่อเพิ่มความลื่น แล้วถูแก้วไปมาจนผิวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ วิธีนี้เหมาะสำหรับผิวบริเวณกว้าง มีกล้ามเนื้อเยอะ

4. **วิธีฉื้อลั่วป๋วกว้าน (Bleeding Cupping):** คือ การเจาะเลือดครอบแก้ว โดยใช้เข็มที่ค่อนข้างหนา เช่น เข็มสามเหลี่ยม เข็มฉีดยา เข็มผิวหนัง เป็นต้น เหมาะสำหรับรักษาอาการผิวหนังคันอักเสบ (Neurodermatitis) สิว ฝีหนอง ไฟลามทุ่ง (Erysipelas) โรคหืด เป็นต้น

5. **วิธีหลิวเจินป๋ากว้าน (Needle Cupping):** คือ การครอบแก้วเข็ม โดยเริ่มจากฝังเข็มกระตุ้นให้ผู้ป่วยรู้สึกตึงๆ หน่วงๆ บริเวณจุดที่ฝังเข็ม จากนั้นคาเข็มทิ้งไว้ แล้วใช้แก้วครอบให้เข็มอยู่ในตำแหน่งตรงกลางแก้วพอดีเป็นเวลา 5-15 นาที จากนั้นดึงแก้วแล้วถอนเข็มออก

6. **วิธีเย่ากว้าน (Medicinal Cupping):** คือ การครอบแก้วยา โดยใช้ยาสมุนไพรจีนที่ต้มจนเดือดข้น นำไปใส่กระบอกไม้ไผ่ลงไปต้ม โดยใช้ตำรับยาสมุนไพรจีนตามชนิดของโรคและการวินิจฉัยของแพทย์จีน วิธีนี้ใช้รักษาโรคต่างๆ เช่น รูมาทอยด์ และโรคปวดต่างๆ

**ขั้นตอนการครอบแก้ว**

ก่อนการครอบแก้ว:

1. หลีกเลี่ยงการทำหลังรับประทานอาหารทันที พักอย่างน้อย 30 นาที และไม่ควรทำขณะท้องว่างหรืออิ่มจนเกินไป

2. อาบน้ำเตรียมร่างกายให้พร้อม

ขณะครอบแก้ว:

1. อยู่ในท่าที่สบาย ไม่ขยับตัวเปลี่ยนท่า และกำหนดลมหายใจเข้า-ออกลึกๆ ช้าๆ เพื่อบรรเทาความเจ็บ

หลังครอบแก้ว:

1. ใส่เสื้อผ้าเนื้อหนาเพื่อปกปิดบริเวณที่ครอบแก้ว รอยช้ำจะหายไปเองใน 1 สัปดาห์

2. หลังจากครอบแก้ว 3 ชั่วโมงไม่ควรอาบน้ำ และหลีกเลี่ยงการกระทบอากาศเย็นหรือความชื้น เพื่อป้องกันการเป็นลม

3. ดื่มน้ำอุ่นหลังจากครอบแก้ว เนื่องจากการครอบแก้วจะช่วยเปิดรูขุมขนเพื่อขับน้ำออกมาเป็นเหงื่อและปัสสาวะ

การครอบแก้วควรทำโดยแพทย์จีนที่มีความรู้และเชี่ยวชาญในศาสตร์แพทย์จีน เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุดในการรักษา