ปัจจุบันในท้องตลาดมีเก๋ากี้จำหน่ายอยู่ 2 สายพันธุ์ คือ
เก๋ากี้สีแดง เม็ดขนาดเล็ก รสหวาน มีสารสำคัญ ได้แก่
– Polysaccharide สามารถช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน และยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์ที่ผิดปกติ
– Beta-carotene สามารถเปลี่ยนเป็นวิตามิน เอ ช่วยควบคุมและบำรุงประสาทตา
เก๋ากี้สีดำ เม็ดขนาดใหญ่กว่าสีแดง รสหวานน้อย มีสารสำคัญ ได้แก่
– Anthocyanins สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงผิวพรรณ ลดรอยเหี่ยวย่น
– Flavonoid สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และควบคุมความดัน
– กรดอะมิโนจำเป็น ช่วยซ่อมแซมเซลล์ของร่างกาย
– Polysaccharide แต่มีปรืมาณน้อยกว่าสีแดง

ดังนั้นหากต้องการบำรุงร่างกาย เสริมภูมิคุ้มกัน ควรรับประทานเก๋ากี้สีแดง และหากต้องการบำรุงผิวพรรณ ต้านอนุมูลอิสระ ควรรับประทานเก๋ากี้สีดำ

การรับประทาน: เก๋ากี้สีแดงจะนำมาต้มซุปรับประทานหรือนำมาชงเป็นชาดื่มระหว่างวันก็ได้ ส่วนเก๋ากี้สีดำ ไม่ควรนำมาต้มซุป นำมาชงเป็นชาดื่มก็เพียงพอ เพราะการต้มจะทำให้สารสำคัญในเก๋ากี้สีดำสูญเสียไป

ปริมาณแนะนำในการบริโภค 10-15 กรัมต่อวัน ไม่ควรกินปริมาณเยอะจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้ร้อนในได้

ข้อมูลโดย อ.ดร.พจ.ศรันยกรณ์ แถมวัฒนะ อาจารย์ประจำคณะการแพทย์แผนจีน มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ